จัดสวนหน้าบ้าน

รวมต้นไม้จัดสวนรับหน้าฝน ปลูกแล้วปัง ไม่ต้องกลัวเหี่ยวเฉา

ช่วงที่กำลังเข้าสู่หน้าฝนอย่างนี้ แน่นอนว่าสำหรับคนที่กำลังคิดจะปลูกหญ้า ปลูกต้นไม้หรือจัดสวนหน้าบ้าน ก็เป็นโอกาสที่ดีเพราะ หน้าฝนที่ชุ่มฉ่ำก็มักจะทำให้ต้นไม้และสวนของเราเขียวขจีได้ง่าย แถมประหยัดน้ำในการดูแลอีก อย่างไรก็ตาม อะไรที่มากเกินพอดีก็จะนำพามาซึ่งผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามได้เช่นกัน ฝนที่ชุ่มฉ่ำเกินไป ก็อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง กลายเป็นต้นไม้ที่เราดูแลมาอย่างดีเฉาตาย หรือเกิดรากเน่าได้เช่นกัน นอกเหนือจากวิธีการดูแลจัดสวนช่วงฤดูฝน ที่เราเคยพูดไปแล้ว บทความนี้ทีมงาน tantawanlandscape.com จะมารวมรายชื่อต้นไม้ที่ชอบน้ำมาก ๆ มาไว้ในบทความเดียว ซึ่งจะเป็นต้นไม้ที่เหมาะมากในการปลูกช่วงหน้าฝน และหายห่วงเรื่องการดูแลไปได้ จะมีต้นอะไรบ้างไปดูกันค่ะ 1. ต้นพะยอม 2. ต้นเตยหอม 3. ต้นพลูด่าง 4. ต้นลิ้นมังกร 5. ต้นไทร 6. ฟิโลเดนดรอน 7. ต้นแว่นแก้ว 8. ต้นลำเพ็ง 9. ต้นอินจัน 10. ต้นมอนสเตอร่า และนี่ก็คือวิธีการดูแลสวนช่วงหน้าฝนแบบเบื้องต้น ที่เราสามารถอ่านและนำไปปฏิบัติใช้ได้เลย เพียงหาเวลาเล็กน้อยมาเตรียมการให้ดีก่อนหน้าฝน ก็จะช่วยให้เราสามารถดูแลสวนให้ผ่านช่วงฤดูฝนนี้ไปได้อย่างสวยงาม แถมหญ้าเขียวสดชื่นอีกด้วยค่ะ สนใจปลูกหญ้าจัดสวน แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร มีข้อสงสัยหรือพบปัญหาอื่น ๆ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมกับทางไร่หญ้าทานตะวัน เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบจัดสวน-ดูแลสวน ประสบการณ์หน้างานจริงกว่า 20 …

รวมต้นไม้จัดสวนรับหน้าฝน ปลูกแล้วปัง ไม่ต้องกลัวเหี่ยวเฉา Read More »

วิธีการดูแลสวนช่วงหน้าฝนยังไงให้รอด แถมยังเขียวขจีฉ่ำ ๆ

ช่วงที่กำลังเข้าสู่หน้าฝนอย่างนี้ แน่นอนว่าสำหรับคนที่กำลังคิดจะปลูกหญ้า ปลูกต้นไม้หรือจัดสวนหน้าบ้าน ก็เป็นโอกาสที่ดีเพราะ หน้าฝนที่ชุ่มฉ่ำก็มักจะทำให้ต้นไม้และสวนของเราเขียวขจีได้ง่าย แถมประหยัดน้ำในการดูแลอีก อย่างไรก็ตาม อะไรที่มากเกินพอดีก็จะนำพามาซึ่งผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามได้เช่นกัน ฝนที่ชุ่มฉ่ำเกินไป ก็อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง กลายเป็นต้นไม้ที่เราดูแลมาอย่างดีเฉาตาย หรือเกิดรากเน่าได้เช่นกัน วันนี้ทีมงาน tantawanlandscape.com จะมารวมวิธีการดูแลสวนในช่วงฤดูฝน ที่ทำให้ต้นไม้และสวนหน้าบ้านของเราเขียวขจี และที่สำคัญคือต้องอยู่รอดได้ ไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง 1. ตัดแต่งกิ่งกำจัดวัชพืชก่อนเข้าหน้าฝน อันนี้คือสิ่งแรก ๆ ที่เราต้องเตรียมตัวหาเวลามาจัดการ เพราะหากปล่อยให้ต้นไม้มีกิ่งก้านที่หนาทึบเกินไป แล้วไม่ได้ตัดแต่งเลย มันจะทำให้กิ่งไม้นั้นหักหล่นลงมาได้หากเจอฝนหรือพายุแรง ๆ ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายกับตัวบ้านหรือผู้อยู่อาศัยได้เลย ส่วนถ้าเพิ่งปลูกใหม่ ต้องใช้คำพยุงเพื่อให้ยึดเกาะดินได้ ไม่โอนเองไปตามแรงลม รวมถึงอย่าลืมกำจัดวัชพืชที่ขึ้นมาด้วยนะคะ เพราะหน้าฝนวัชพืชเค้าจะเติบโตเร็วมาก ๆ จนแย่งอาหารต้นไม้ ทำให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อรา 2. ป้องกันน้ำท่วมขัง จุดหลัก ๆ เลยคือ ต้องพรวนดินให้ร่วนซุย เพื่อไม่ให้ดินมันเกาะกันแน่นจนอุ้มน้ำ เพราะหากอุ้มน้ำ เวลาฝนตกแรง ๆ น้ำจะขัง ทำให้รากเน่าและส่งผลให้ต้นไม้เฉาตายได้ง่าย รวมทั้งทำระบบระบายน้ำจากบริเวณรอบโคนต้นไม้ไว้ด้วย เพื่อให้น้ำฝนที่ตกลงมาที่ต้นไม้ระบายออกเร็วที่สุด หมั่นตรวจดูท่อระบายน้ำกวาดเศษดิน เศษใบไม้ หรือเศษขยะออกไม่ให้อุดตันท่อระบายน้ำ ขณะที่พวกบริเวณทางเดินในสวนนั้น หากมีวัสดุที่ทำจากไม้ เราควรเคลือบผิวหน้าไม้ป้องกันไว้ก่อน …

วิธีการดูแลสวนช่วงหน้าฝนยังไงให้รอด แถมยังเขียวขจีฉ่ำ ๆ Read More »

เคล็ดลับดูแลสวนให้รอดช่วงหน้าร้อน

หน้าร้อนในประเทศไทยถือเป็น ช่วงเวลาที่โหดร้ายมาก ๆ  อย่างที่เราทราบกันดี และยิ่งสำหรับคนมีสวนหน้าบ้านยิ่งเป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายเลย ในการดูแลต้นไม้และสวนของตัวเองให้ยังเขียวขจีได้ในฤดูร้อน เพราะด้วยแสงแดดที่ร้อนสาดมาตลอดทั้งวัน มีความเสี่ยงให้ต้นหญ้า หรือต้นไม้เจอกับความแห้งแล้งเหี่ยวเฉาทยอยเหลืองตายกันได้ วันนี้ทีมงาน tantawanlandscape.com เลยรวบรวมแนวทางการดูแลสวนหน้าบ้านของเราให้อยู่รอดได้ ท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนจัดมาฝากกัน ซึ่งอ่านแล้วสามารถเอาไปทำตามได้เลยค่ะ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง คอยรดน้ำต้นไม้สม่ำเสมอ ในช่วงหน้าร้อนแดดจัดแบบนี้ จะเกิดสภาวะที่ทำให้ต้นไม้คายน้ำสูง ทำให้ต้องการน้ำจากดินมากขึ้น เราจึงต้องพยายามขยันรดน้ำมากขึ้น โดยควรรดน้ำต้นไม้ 2 ช่วงเวลาคือ ช่วงเช้าเวลา 06.00-08.00 และช่วงเย็นเวลา 17.00 น. จะช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับต้นไม้ พื้นดิน และใบหญ้า ลดปัญหาความแห้งแล้งได้มาก ตัดแต่งกิ่งสม่ำเสมอ หลายคนมองข้ามจุดนี้ไปเพราะคิดว่ารดน้ำถี่ขึ้นก็ช่วยได้เยอะแล้ว แต่สำหรับการจัดสวนช่วงหน้าร้อนนั้น การแต่งกิ่งนี่แหละค่ะจะช่วยให้ต้นไม้เค้าลดการคายน้ำทางใบในช่วงหน้าร้อน เน้นว่าควรตัดแต่งกิ่งที่อ่อนแอ เพื่อให้ต้นไม้ผลิดอกออกผลใหม่ขึ้นมา ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้สวนมากขึ้นค่ะ คอยหมั่นพรวนดิน เพราะหน้าร้อนจะทำให้ดินแห้ง ต้นไม้เองก็คายน้ำเยอะ แต่หากดูดน้ำจากดินไม่ได้ก็จะเหี่ยวเฉา ฉะนั้นเราจะต้องหมั่นพรวนดินให้มีความร่วนซุย เพราะจะช่วยให้น้ำ อากาศไหลลงดิน ช่วยเลี้ยงต้นไม้ได้ค่ะ ไม่ลืมกำจัดศัตรูพืช เพราะช่วงหน้าร้อน ศัตรูพืชเหล่านี้จะเกิดมากขึ้น โดยเฉพาะเพลี้ย แมลงหวี่ ที่มักพบเจออยู่บ่อยครั้ง และมักทำความเสียหายให้กับสวน วิธีการกำจัดโดยทั่วไปแล้วอาจเป็นวิธีธรรมชาติ เช่น …

เคล็ดลับดูแลสวนให้รอดช่วงหน้าร้อน Read More »

แนวทางการออกแบบสวนสำหรับผู้สูงอายุและผู้ใช้วีลแชร์

โลกทุกวันนี้อย่างที่เราทราบกันดีกว่า ในโลกยุคปัจจุบันสังคมผู้สูงอายุนั้นจัดได้ว่าเป็นสภาวะสังคมที่มีสัดส่วนมากขึ้นเรื่อย ๆ และในอนาคตอันใกล้ก็คาดว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศสังคมสูงวัยเต็มตัว ซึ่งปัจจัยแรก ๆ อย่างเรื่องการอยู่อาศัยก็เป็นประเด็นที่คนให้ความสนใจกันมาก รวมถึงการจัดสวนหน้าบ้านที่เริ่มจะออกแบบมารองรับให้ผู้สูงอายุรวมถึงคนพิการสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น วันนี้ทีมงาน tantawanlandscape.com เลยทำการรวบรวมแนวคิดการออกแบบสวนหน้าบ้านสำหรับผู้สูงอายุและผู้ใช้วีลแชร์มาฝากค่ะ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกช่วงวัยเช่นกัน สวนที่เป็นมิตรกับผู้สูงวัยต้องมีอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลยค่ะ เริ่มจากการเลือกพื้น นี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุดเป็นอันดับแรก ๆ เวลาจัดสวนหน้าบ้านของเรา เพราะการเลือกพื้นควรต้องพิถีพิถันในเรื่องของพื้นผิวที่สัมผัส ซึ่งหากคิดถึงเรื่องการใช้งานที่เป็นมิตรกับคนทุกช่วงวัยแล้ว มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ ไม่ควรใช้วัสดุปูพื้นที่มีความขรุขระ เช่นพวก กรวดล้าง กระเบื้องคอนกรีต กระเบื้องหินกาบ เนื่องจากจะทำให้เดินยากและไม่เหมาะกับผู้ใช้รถเข็นวีลแชร์ รวมถึงเลี่ยงพวกวัสดุที่มีผิวมันเรียบแวววาว เพราะเสี่ยงต่อการลื่นล้มอย่างมาก ไม่ว่าจะในเด็กหรือผู้สูงอายุ วัสดุที่ใช้ปูพื้น เช่น แผ่นทางเดิน ลานกรวด หรือระเบียง แต่ละส่วนต้องใช้วัสดุพื้นผิว รวมทั้งโทนสีที่ต่างกัน  อย่าใช้ลายเยอะ เพราะอาจทำให้ผู้สูงอายุสับสนในการใช้งานได้ รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงพื้นต่างระดับ เพื่อความสะดวกทั้งผู้สูงวัยและผู้พิการ ทางเดินในสวน ทางเดินหรือพวกลานในสวนของเรา เป็นจุดที่ต้องพิจารณาดี ๆ เพราะเป็นทางเชื่อมของแต่ละพื้นที่ จากตัวบ้านและสวน สมาชิกทุกคนยังไงก็ต้องใช้งาน การออกแบบการใช้งานทางเดินในสวนควรมีจุดที่ต้องคำนึงถึงคือ ระยะทางที่เชื่อมถึงกันต้องไม่ยาวเกินไป เพื่อให้คนใช้งาน รู้ระยะการเดินได้ถูกต้อง ระยะความกว้างของพื้นทางเดินควรมีระยะไม่ตำกว่า 1.50 เมตร …

แนวทางการออกแบบสวนสำหรับผู้สูงอายุและผู้ใช้วีลแชร์ Read More »