สิ่งหนึ่งที่คนมีสนามหญ้าหน้าบ้านมักจะพบเจอคือ ปัญหาเรื่องการดูแลสวนหน้าบ้านให้มีความเขียวสดชื่นได้ทั้งปี เนื่องจากผ่านการใช้งานและกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งเป็นพื้นที่พักผ่อน รองรับแขก หรือจัดสวนปาร์ตี้ร่วมกันของเพื่อน ๆ หรือสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งช่วงฤดูกาลต่าง ๆ ที่ทำให้อากาศเปลี่ยน ล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถส่งผลให้การดูแลสวนหน้าบ้านที่เคยเขียวสวยของเรา มีอาการเหลือง หรือแห้งเหี่ยวได้ ทำให้สวนหน้าบ้านดูไม่สดชื่น พาลทำให้ภาพรวมของทั้งตัวบ้านเราดูหมอง ๆ ตามไปด้วย วันนี้ tantawan.com ขอแชร์วิธีการดูแลสวนหน้าบ้านเบื้องต้นให้หญ้าของเราอยู่ในสภาพเขียวขจีสมบูรณ์ได้ตลอดทั้งปี ต้องมีการดูแลแบบไหนบ้าง ซึ่งเป็นวิธีที่คนทั่ว ๆ ไปก็สามารถเริ่มต้นเองได้ค่ะ
เลือกหญ้าให้เหมาะกับพื้นที่
ไม่ว่าตอนนี้สวนหน้าบ้านของคุณจะปลูกหญ้าอะไรอยู่บ้าง หรือยังไม่ได้จัดการกับพื้นที่ สิ่งแรกที่ต้องมาพิจารณาเลยก็คือเรื่อง ชนิดของหญ้าที่จะปลูก เพราะมีความสำคัญมากโดยอิงกับพื้นที่สวนหน้าบ้านของเราเองว่ามีลักษณะพื้นที่แบบไหน รวมถึงไลฟ์สไตล์เราและคนที่บ้านด้วย เพื่อเลือกต้นไม้หรือหญ้าที่เหมาะสมกับวิธีการดูแลให้เขียวขจีสม่ำเสมอได้ตลอดทั้งปี โดยหลัก ๆ หญ้าสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมปลูกหรือจัดสวนหน้าบ้านนั้นจะมีดังนี้
หญ้านวลน้อย
เป็นหญ้าสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะปลูกง่ายในทุกสภาพดิน ฟื้นตัวจากจากโดนเหยียบได้ไว ชอบแดดจัด สามารถขึ้นได้ดีในดินเกือบทุกชนิด ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี และทนต่ออากาศร้อนและแห้งแล้งหรือน้ำท่วมขังแฉะได้เป็นครั้งคราว ต้องการน้ำปานกลาง ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ เป็นหญ้าที่ดูแลง่ายกว่าหญ้าสายพันธุ์อื่น ๆ
หญ้ามาเลเซีย
หญ้าสายพันธุ์ที่นิยมมาปลูกสนามหน้าบ้านกันมาก มีสีเขียวเข้มสดใส เจริญเติบโตได้ดีแม้ในที่ร่ม โดยส่วนมากสถานที่ที่ปลูกหญ้ามาเลย์นั้นก็จะเป็นตามสถานที่ราชการต่าง ๆ เช่นโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย เป็นต้น เติบโตได้ทุกสภาพดินยกเว้นดินเค็ม มีจุดเด่นเป็นหญ้าที่มีลำต้นจะโตราบไปกับผิวดิน ชอบความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ
หญ้าไทเป
มีลักษณะคล้ายหญ้ามาเลเซียมาก จนบางครั้งแยกกันไม่ออกเลยหากมองแบบผิวเผิน มีจุดสังเกตตรงที่ลำต้นจะสั้นกว่าหญ้ามาเลย์ และจะเลื้อยอยู่ใต้ดิน โผลขึ้นมาแค่ใบเท่านั้น ทำให้ไม่ต้องตัดแต่งหญ้าบ่อยและไม่ต้องการการดูแลมากเหมือนหญ้าชนิดอื่น ๆ สามารถปลูกได้ทุกสภาพดิน ปลูกได้ทั้งกลางแจ้งและในร่ม
หญ้าเบอร์มิวด้า
หญ้าเบอร์มิวด้า หรือที่คนไทยเราคุ้นเคยในเรียกกันว่า หญ้าแพรก หญ้าชนิดนี้เจริญเติบโตได้ดีในดินเกือบทุกชนิด รวมทั้งสภาพแห้งแล้งและขาดน้ำ ทนการเหยียบย่ำได้ แต่ก็ต้องการความชุ่มชื้นมาก และจำเป็นต้องมีการตัดแต่งให้สั้นอยู่เสมอ มักใช้ปลูกเป็นสนามหญ้าทั่ว ๆ ไป เช่น สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น
หญ้าพาสพาลั่ม
เป็นหญ้าที่เจริญเติบโตได้ในสภาพอากาศอบอุ่นจนถึงร้อน ขนาดใบหญ้าจะมีขนาดใกล้เคียงกับหญ้านวลน้อย แต่หญ้าพาสพาลัมจะให้สัมผัสที่นุ่มนวลมากกว่าหญ้านวลน้อย เพราะปลายใบหญ้ามีลักษณะมน ไม่แหลมจึงให้ความรู้สึกนุ่ม เวลานั่ง ทนทานต่อการเหยียบย่ำในระดับหนึ่ง ทนต่อสภาพอากาศร้อน เหมาะแก่การปลูกบริเวณ สนามหญ้าหน้าบ้าน สนามกีฬา สวนหย่อม ต่าง ๆ
วิธีพิจารณาเลือกหญ้าที่จะปูสนามหน้าบ้าน
- พิจารณาจากจุดประสงค์การใช้งาน เราต้องได้คำตอบว่าสวนของคุณมีไว้ทำอะไรบ้าง ถ้าเน้นไปที่การมีกิจกรรมที่สวนเยอะ ๆ เช่นจัดปาร์ตี้ หรือเป็นพื้นที่ให้เด็ก ๆ มาวิ่งเล่นบ่อย ก็ควรเลือกสายพันธุ์ที่ทนทานต่อการเหยียบย่ำได้ดี ถ้านั่งปูเสื่อปิกนิกกัน ก็อาจมองไปที่ความนุ่มของหญ้าด้วย ที่นั่งแล้วไม่เจอหญ้าแหลม ๆ มาทิ่มแทงให้รำคาญผิว
- ดูความเหมาะสมของพื้นที่สวน เราต้องพิจารณาว่า เราจะทำสนามหญ้าในบริเวณไหนของบ้าน เพราะสิ่งนี้ถือว่ามีความสำคัญในแง่ของการคำนึงถึงพื้นที่ที่จะได้รับแสงแดด ลม รวมทั้งความชุ่มชื้นที่ต่างกัน เนื่องจากหญ้าแต่ละชนิดชอบแดด ต้องการน้ำในปริมาณที่ต่างกัน บางชนิดต้องการแดดจัดถึงจะโตได้ดี บางชนิดกลับเติบโตได้ดีในที่ร่ม
- การบำรุงดูแลของหญ้าแต่ละชนิด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญเพราะ เราจำเป็นต้องรู้เงื่อนไข ข้อจำกัดของหญ้าแต่ละชนิดให้ดีก่อน เพื่อมาวางแผนในการดูแลให้ได้สม่ำเสมอ เช่น หากบ้านไหนไม่มีเวลาดูแลมากนักก็อาจพิจารณาหญ้าที่ไม่ต้องการการดูแลมากนักและมีความทนทาน สามารถเติบโตได้ในทุกสภาวะอากาศ เป็นต้น
วิธีการดูแลสนามหญ้าหน้าบ้านให้เขียวขจีรอดทุกซีซั่น
- รดน้ำให้เพียงพอและถูกวิธี เป็นสิ่งสำคัญแรก ๆ ของการดูแลสนามหญ้าหน้าบ้านให้เขียวสดชื่นอย่างแท้จริง แนะนำว่าควรรดน้ำช่วงเช้าตรู่ที่แดดยังไม่จัดมาก โดยเฉพาะหญ้าหลังปลูกใหม่ ๆ นั้นควรรดน้ำให้ชุ่มไว้ก่อนเลยวันละ 2-3 ครั้ง ติดต่อกันในช่วง 10 วันแรก เพื่อให้หญ้าได้รับสารอาหาร และมีการหยั่งรากลงในดินเพื่อพร้อมสำหรับการเจริญเติบโตเต็มที่ โดยทำควบคู่กับการกำจัดวัชพืช ลงดิน ใส่ปุ๋ย
- หมั่นใส่ปุ๋ยและกำจัดวัชพืช หญ้าทุกชนิดล้วนต้องการอาหารบำรุงเพื่อการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์ เราแนะนำว่าควรใส่ปุ๋ยให้หญ้าเดือนละ 1 ครั้ง โดยหลังใส่ปุ๋ยทุกครั้งต้องรดน้ำตามให้ชุ่ม และเมื่อหญ้าเริ่มโต วัชพืชจะขึ้นแซมมาด้วยเช่นกัน หน้าที่เราคือหมั่นกำจัดออก
- ดูแลสนามหญ้าโดยการคลุมดิน วิธีดูแลสนามหญ้าในช่วงหน้าหนาวนี้ ต้องรักษาความชื้นในดินเอาไว้ ดังนั้น แนะนำว่าควรคลุมดินด้วยซากพืชหรือปุ๋ยนำมาผสมกัน แต่เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อนำคลุมดินแล้วควรที่จะเกลี่ยให้เรียบร้อย ไม่ให้กองเป็นเนินสูง เพียงแค่นี้สนามหญ้าหน้าบ้านก็จะสวยงามอยู่เสมอตลอดทั้งฤดูอย่างแน่นอน
- คอยตัดหญ้าให้สม่ำเสมอ การตัดหญ้าทำให้หญ้าไม่สูงเกินไปจนวัชพืชหรือเหล่าแมลงศัตรูพืชมาอาศัยอยู่ แนะนำว่าควรตัดเป็นประจำทุกสัปดาห์ ตัดให้เหลือความสูงประมาณ 2-3 นิ้ว ไม่ต้องสั้นเกินไป เพราะเพื่อให้ตัวต้นหญ้าสามารถรักษาน้ำ และความชุ่มชื้นภายในต้นได้ ทำให้เราไม่ต้องรดน้ำบ่อย ๆ จนทำให้ดินแฉะและเกิดรากเน่าขึ้นได้